วิตามินบี 3 หรือ ไนอะซิน (Niacin)
ร่างกายสามารถสร้างเองได้ต่อเมื่อมีแอมิโนแอซิดชื่อ ทริปโตแฟน (Trytophan) วิตามินบี 1 บี 2 และบี 6 ในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนช่วยระบบการไหลเวียนโลหิตและลดความดันโลหิต ช่วยบรรเทาโรคท้องเดิน ท้องเสีย แก้ปากเป็นแผล ช่วยแก้อาการเวียนศีรษะเนื่องมาจากหูเกิดความผิดปกติ ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ อีกทั้งยังช่วยสร้างฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนไทรอยด์ คอร์ติซอล และอินซูลิน
ข้อแนะนำ:
ถ้ากินวิตามินบี 3 ชนิดเม็ดตั้งแต่ 500 มิลลิกรัมขึ้นไปจะรู้สึกหน้าร้อนผ่าวและคันตามตัว แต่ไม่มีอันตรายใดๆ รอสักครึ่งชั่วโมงอาการก็จะหาย หรือจะลองอาบน้ำเย็นๆ ก็ช่วยได้
วิตามินบี 6 และ บี 12 หรือ ไพริดอกซีน (Pyridoxine) และโคบาลามิน (Cobalamin)
ตามลำดับ ช่วยบำรุงเลือดและสร้างพละกำลังให้ร่างกาย เมื่อใช้ร่วมกันจะได้ผลที่สมบูรณ์ โดยมีความ
ต่างกันเล็กน้อย เช่น บี 6 มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถเปลี่ยนแอมิโนแอซิดจากโปรตีนเป็นพลังงาน แต่บี 12 จะช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดให้มีปริมาณมากขึ้น ซึ่งเลือดก็เป็นโปรตีนเหมือนกัน จึงเป็นการให้พลังงานคนละประเภท และบี 6 ยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมบี 12ได้ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้บี 6 ยังมีความโดดเด่นคือ ช่วยสร้างน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร กรดนิวคลีอิก (Nucleic Acid) แก้อาการตะคริวและขับปัสสาวะ ส่วนบี 12 ก็ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยลดความฟุ้งซ่านเพิ่มความจำและสร้างสมาธิด้วย
ข้อแนะนำ:
วิตามินบี 6 วันละ 1 เม็ด (100 มิลลิกรัม) หลังอาหารเย็นวิตามินบี 12 วันละ 1 เม็ด (100 ไมโครกรัม) หลังอาหารเย็น
วิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic Acid)
ความสำคัญคือ เป็นตัวสร้างแอนติบอดี ซึ่งสำคัญกับภูมิชีวิต และยังช่วยเปลี่ยนไขมันเป็นน้ำตาล กระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนลดความเครียดช่วยให้หายอ่อนเพลียและหายจากอาการช็อกหลังการผ่าตัดใหญ่
ข้อแนะนำ:
ในผู้ที่มีภูมิชีวิตต่ำ (เช่น ติดหวัดง่าย แผลหายยาก)ควรกินวิตามินบี 5 วันละ 2 เม็ด (เม็ดละ 100 มิลลิกรัม) และควรกินร่วมกับ B Complex ด้วย
พาบา (PABA)
ช่วยให้ร่างกายสร้างวิตามินบี 5 กรดโฟลิก ดีเอ็นเอ(DNA) และอาร์เอ็นเอ (RNA) เสริมความแข็งแรงของผิวหนังและบำรุงผม ร่างกายสามารถเก็บพาบาได้ ต่างจากวิตามินบีตัวอื่น ๆ ที่ร่างกายไม่สามารถเก็บไว้ได้ ในกรณีที่ขาดแคลนวิตามินบีตัวใดตัวหนึ่ง พาบาจะช่วยประคับประคองไม่ให้ร่างกายเจ็บป่วย
ข้อแนะนำ:
หากจำเป็นต้องกินชนิดเม็ด ควรกินวันละไม่เกิน 50มิลลิกรัม
วิตามินกลุ่มบีนี้เป็นวิตามินละลายในน้ำ แม้บริโภคมากเกินไปร่างกายจะขับออกทันที จึงไม่สะสมจนเกิดผลเสียต่อสุขภาพ และไม่เป็นอันตรายหากจะกินเสริม เพียงแต่หากกินมากเกินไปก็เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุค่ะ