14 สัญญาณเช็กความแก่มาเยือน
คำว่าแก่พูดเบาๆ ก็เจ็บ ประโยคนี้เอาไว้แซวเล่นกันในหมู่เพื่อนฝูงก็ขำๆ ดีนะคะ แต่หากในชีวิตจริงนั้นการที่คนเรา แก่ตัวลง นอกจากเรื่องของตัวเลขที่เพิ่มขึ้นแล้ว เรื่องความเสื่อมลงไปของร่างกายก็เป็นสิ่งที่วัดได้ว่าเริ่มแก่แล้วนะ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะไม่ยอมรับว่าตัวเองแก่ เพราะหน้าตายังไม่แก่ ไปไหนยังมีคนเรียกว่าพี่อยู่เลย เอาแบบนี้ค่ะ วันนี้เรามีวิธีวัดความแก่มาฝาก ลองอ่านดูเพลินๆ นะคะ ดูสิว่าเรานั้นเข้าข่ายกันคนละกี่ข้อแล้ว
วิธีวัดความแก่ตามตําราของแพทย์กลุ่มหนึ่ง นำโดยนายแพทย์เอชเอ็ม.ซีเดล(HM.Sedel) พร้อมด้วยนายแพทย์ท่านอื่นๆ ได้ศึกษาและเก็บสถิติรวบรวมไว้เป็นตํารา AGINGANDMENTALHEALTH และนี่คือวิธีตรวจร่างกายโดยคร่าวๆ ว่า คุณแก่หรือยัง
1.วัดความสูงปัจจุบันเทียบกับความสูงในอดีตทั้ งนี้โดยถือเอาอายุ 65ปี ขึ้นไป เป็นเกณฑ์ ซึ่งเกณฑ์ปกตินั้นยอมรับว่าเมื่ออายุ 65 เทียบกับเมื่อ 55 (หรือทั่วๆ ไปอาจจะเอาอายุปัจจุบัน) หรือสิบปีก่อน คุณผู้ชายจะเตี้ยลงประมาณครึ่งนิ้วคุณผู้หญิงอาจจะเตี้ยมากกว่านั้นถ้าอายุถึงวัยทอง แต่ไม่ควรเกิน 1 นิ้ว
2.เทียบน้ำหนัก สําหรับผู้ชายนั้นน้ำหนักควรจะค่อยๆ ลดลง (ไม่ใช่ลดฮวบฮาบ) แต่คุณผู้หญิงมักจะน้ำหนักค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น
3.ดูที่ผิวหนัง ผิวหนังมักแห้งลง และบางคนนอกจากผิวแห้งแล้วจะเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว มีมาตรฐานตัวเลขซึ่งกลุ่มแพทย์ลงความเห็นว่าความแห้งของผิวหนัง (DRYNESS) รอยย่น (WRINKLE) การห้อย (SAGGING) การบา (THINNING) โดยเฉพาะความบางของผิวหนังที่หลังมือจะสังเกตได้ง่าย
นอกไปจากนั้นให้สังเกตสีของผิวหนังว่าเปลี่ยนไปมากไหม มีไฝหรือหูด มีรอยด่างหรือเส้นเลือดขอดมากขึ้นหรือเปล่า สรุปว่าจะดูว่าความแก่เกิดขึ้นเร็วมากหรือไม่ สามารถดูจากผิวหนังได้ชัดเจนกว่าดูจากอย่างอื่น
4.ตรวจดูเส้นผม มีผมหงอกหรือผมเริ่มบางลงหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกันขนที่รักแร้หรือในที่ลับก็จะแสดงความเปลี่ยนแปลงให้เห็นด้วยเช่นกัน
5.สังเกตจมูกและหู ให้สังเกตว่าจมูกและหูโตตามใบหน้าด้วยหรือไม่หลายคนอ้วนขึ้น หน้าก็จะหนาและอูม หูและจมูกก็น่าจะขยายตัวตามหน้า
6.ตรวจดูตา ตาบางคนแห้งอย่างรวดเร็วหรือถ้าไม่แห้งจะมีน้ำข้นๆ หรือบางทีมีขี้ตาเพิ่มขึ้น ตาดําควรจะขยายได้โตกว่าเดิม ตาขาวอาจจะมีริ้วรอยของเส้นเลือดฝอยเพิ่มมา ขอบตามีรอยเป็นวงๆ เกิดขึ้นใหม่ ดวงตาทั้งดวงดูเหมือนจะเล็ก ลงกว่าเก่า แต่ทั้งนี้เหตุผลสําคัญอาจจะอยู่ที่หนังตาห้อยลงมามาก เลยทําให้ตาดูเล็กลง ตาจะมองภาพด้านข้างได้แคบลง
7.ตรวจดูหู คงต้องไปให้แพทย์หรือที่คลินิกหูตรวจดูจะพบว่าการได้ยินเสื่อมลงโดยเฉพาะเสียงสูงๆ จะได้ยินน้อย ลงด้วย
8.ตรวจดูการหายใจ ปอดอาจหายใจได้ไม่เต็ม มีเสียงฟืดฟาดหรือเปล่า กะบังลมยืดขึ้นลงตามการหายใจได้หรือไม่
9.ตรวจหัวใจ ตรวจการเต้นของหัวใจและชีพจรว่าอยู่ ในเกณฑ์ปกติหรือไม่
10.ตรวจปาก ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าเหงือกนั้นหดสั้นลงกว่าเดิม จึงดูเหมือนฟันงอกขึ้นแต่จริงๆ ฟันไม่ได้งอกเป็นเพราะเหงือกหดสั้นมากกว่า เหงือกยิ่งหดโรคของฟันยิ่งมาก น้ำลายแห้งและน้อยกว่าเดิม
11.ตรวจสภาพกล้ามเนื้อคนแก่กล้ามเนื้อจะหดตัว ไม่มีแรง โดยเฉพาะช่วงแขนจะยกของหนักๆ ได้น้อยลง ข้อต่อแทบทุกข้อเสื่อมลง ข้อโตขึ้น เพราะกล้ามเนื้อเหี่ยวลง งอนิ้วมือลําบากขึ้น บางคนจะบ่นว่านิ้วมือสั้นกว่าเดิมแต่เพราะนิ้วงอได้ยากกว่าเดิมจึงดูเหมือนนิ้วสั้น นอกไปจากนั้นหลายคนมีภาวะกระดูกพรุนจึงเดินตรง ไม่ได้ต้องเดินขาถ่าง และขาก็จะยิ่งถ่างมากขึ้นจนดูเหมือน ขาสองข้างโค้งเป็นคันธนูการเดินจึงต้องเดินโยกเยก โยกซ้าย โยกขวา เดินไม่ถนัด เดินช้า
12.ประสาทสัมผัส การได้กลิ่น การสัมผัสและรับรู้ความร้อนความเย็นช้าลง
13.คุณผู้หญิงหน้าอกและอวัยวะสืบพันธุ์จะเปลี่ยนแปลงเร็ว โดยเฉพาะหลังวัยทองอวัยวะแห้ง การสืบพันธุ์จะเป็นไปด้วยความลําบาก เจ็บหน้าอก น้ำหนักเพิ่ม บวมตามร่างกาย เป็นบางครั้ง ความดันโลหิตสูง
14.สัญญาณแห่งความแก่ของผู้ชายเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์ลูกอัณฑะเล็กลง ต่อมลูกหมากโตบวม
ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของความเสื่อมและความแก่ ขอเรียนให้ ทราบว่า ความแก่นั้นไม่ใช่มาตรฐานทั่วไปการแก่ของแต่ละคน ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรงของร่างกาย การ ปฏิบัติตัวในชีวิตประจําวันของแต่ละคน นั่นก็หมายความว่า ความแก่จะมาเร็วหรือมาช้านั้น ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวเองและความตั้งใจมุ่งมั่นของแต่ละคนด้วย
ที่มา: นิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ 358
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ