ชีวจิตพิชิตอ้วน

ชีวจิตพิชิตอ้วน (ลดความอ้วน) อย่างมีความสุขและเบิกบานใจ

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง บรรณาธิการผู้ก่อตั้งองค์ความรู้ชีวจิต ให้แนวคิดเรื่อง ลดความอ้วน และการลดอ้วนไว้อย่างน่าฟัง เราขอนำมาเรียบเรียงให้ผู้อ่านได้รับทราบกันอีกครั้งค่ะ

ภาพโดย Clark Keng จาก Pixabay

ถ้าคุณคิดว่ารูปร่างหน้าตาคุณดูไม่สวย คุณจึงพยายาม ลดความอ้วน แล้ว ไม่ว่าคุณจะพยายามสักเท่าไหร่ คุณก็ยังลดความอ้วนไม่สำเร็จ คุณอดอาหารจนเป็นลมก็แล้ว กินยาลดความอ้วน ยาลดไขมัน ยาขับน้ำก็แล้ว กินเข้าไปเท่าไรมันลดอ้วนได้เพียงชั่วคราว เสร็จแล้วมันก็อ้วนขึ้นมาอีก และมันจะอ้วนยิ่งกว่าเดิมเสียด้วย คุณก็จะรู้สึกอ่อนแอลงไปทุกวัน และคุณกำลังป่วย ถ้าหากว่าคุณเคราะห์ร้าย คุณจะพบว่าความอ่อนแอของคุณนั้นทำให้คุณป่วยหนักได้ด้วย

เพราะฉะนั้น อย่าคิดแก้ความอ้วนของคุรเพราะอยากสวย แต่ขอให้คิดแก้ความเจ็บป่วยของคุณ คิดปรับสภาพร่างกายของคุณให้แข็งแรงสมบูรณ์เสียก่อน แล้วความสวยงามมันก็จะตามมาเอง มันจะเป็นพลอยได้ ของความแข็งแรงและสมบูรณ์ของคุณ

โปรแกรมชีวจิตลดอ้วน ลดป่วย

กฎข้อที่หนึ่งของการลดอ้วนของเราคือ แก้ความเจ็บป่วย ความไม่สบายของเราเสียก่อน

แก้อาการอึดอัด อาการปวดท้อง เสียดท้อง จุกเสียดแน่น หายใจไม่ออก แก้อาการปวดหัว ปวดเนื้อปวดตัว ปวดเข่า ปวดแขน ปวดหลัง แก้ความดันโลหิตสูง แก้อาการมึนซึมของสมอง

แก้อย่างไร แก้ด้วยเรื่องอาหาร แก้ด้วยการใช้อาหารให้เป็นยา แก้ด้วยการบริหารและออกกำลังกาย และแก้ด้วยการทำร่างกายให้ผ่อนคลายเบาเนื้อเบาตัว และแก้ด้วยสมาธิ

อาหารชีวจิต นั้นดีมากสำหรับสุขภาพทั่วๆ ไป และดีสำหรับผู้ที่อยากลดความอ้วนด้วย สูตรอาหารสำหรับสุขภาพทั่วๆ ไป คือ ให้กินคาร์โบไฮเดรต หรืออาหารประเภทแป้ง (ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต มัน เผือก ฟักทอง ฯลฯ) ปริมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ผักสด และผักสุกอย่างละครึ่ง ปริมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ โปรตีนจากพืช (ถั่วต่างๆ เต้าหู้ โปรตีนเกษตร และให้กินปลา หรืออาหารทะเลได้อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง) ปริมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ และสารอาหารเบ็ดเตล็ด (สาหร่ายทะเล เมล็ดพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วกินเล่น ผลไม้ที่ไม่หวาน เช่น มะละกอ ชมพู่ พุทรา) รวมแล้วปริมาณ 10 เปอร์เซ็นต์

สูตรอาหารนี้ เป็นสูตรสำหรับคนทั่วๆ ไป แต่ถ้าอยากให้ได้ผลดีเร็วขึ้น ขอให้เปลี่ยนสัดส่วนประเภทอาหาร ดังนี้ คือ ลดข้าวและแป้ง เหลือ 40 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มผักเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มโปรตีนจากพืช เป็น 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอาหารเบ็ดเตล็ดยังคงเดิมคือ 10 เปอร์เซ็นต์ อย่างเก่า

ความสำคัญของอาหารสูตรนี้ อีกอย่างหนึ่งก็คือผัก ขอให้เลือกผักที่มีกากให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ผักที่มีกากมาก ก็อย่างเช่น ผักบุ้ง ตำลึง บลอกโคลี กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ เห็ดชนิดต่างๆ หัวปลี

นอกจากนี้ ให้ถือว่าสมุนไพรประจำสวนครัวของเราเป็นทั้งอาหาร และเป็นยาไปด้วยในตัว เช่น ข่า ขิง ขมิ้น ตะไคร้ โหระพา กะเพรา แมงลัก หอม กระเทียม เหล่านี้เป็นต้น คุณเอามากินเป็นอาหารเพิ่มรสชาติก็ได้ กินเปล่าๆ ก็ได้ และถ้ามีฝีมือในการปรุงอาหารอยู่บ้าง ก้เอามาปรุงเป็นยำ เป็นแกงเลียง ต้มยำ อะไรก็ได้ทั้งสิ้น เท่ากับคุณได้กินยาซึ่งเป็นอาหารเอร็ดอร่อย โดยไม่ต้องไปซื้อยาลดความอ้วนอย่างแพงๆ เลย

ที่ควรจะเสริมอย่างหนึ่ง คือ น้ำเอนไซม์ ซึ่งคั้นจากผัก ควรจะคั้นน้ำจากเซเลอรี่ หรือขึ้นฉ่าย ดื่มวันละครึ่งแก้ว และถ้าหากคุณใจแข็งหน่อยก็ลองเอามะระจีนคั้นน้ำ ดื่มวันละครึ่งแก้ว สลับกับน้ำเซเลอรี่ ก็จะดีมากๆ

สำหรับน้ำดื่มก็ดื่มน้ำชาสมุนไพร คือ ชาดอกคำฝอย ชาตะไคร้ ชาลูกใต้ใบ ชากระเจี๊ยบ ดื่มสลับกันทุกวัน วันละ 2-3 แก้วก็พอ

นี่คืออาหารตามสูตรและอาหารซึ่งเป็นยาไปในตัว ที่คู่กันกับอาหาร และขาดไม่ได้อย่างแน่นอน คือ การบริหารและออกกำลังกาย ถ้าคุณกลัวเรื่องความอ้วน ก็จำไว้เป็นสูตรง่ายๆ ว่า ถ้าเอาเข้าไปในตัวเราเท่าไร ก้ต้องเอาออกมาให้ได้เท่านั้น

เอาเข้าก็คือการกิน กินแล้วก้ต้องย่อย ย่อยแล้วก้ไปเลี้ยงร่างกาย มีการเผาผลาญเพื่อให้เป้นพลังงานสำหรับร่างกาย เมื่อเหลือเป็นกากก็ถ่ายออกมา ทั้งเป็นน้ำ เป็นเหงื่อ และเป็นอุจจาระ นี่คือการเอาออก ถ้าเข้าและออกพอดีกัน คุณก็จะมีสุขภาพและร่างกายพอดี ไม่อ้วนไม่ผอม

การทำงาน การบริหาร และการออกกำลังกาย เป็นการเอาออก หรือว่าที่จริงเป็นการเผาผลาญพลังงาน ที่อยูในตัวเราให้ออกมา และให้เหลืออยู่ในตัวเราในระดับพอดีๆ กัน

ถ้าเอาเข้ามาก คือกินมากๆ และไม่มีการออก คือ ไม่ทำงาน ไม่ออกกำลังกาย พลังในตัวเราก้จะเหลือเกินความต้องการ มันจึงเพิ่มพูนกลายเป้นต้นตอของความเจ็บไข้ได้ป่วย และพอกพุนจนกลายเป็นความอ้วน

เพราะฉะนั้นรายการนี้ ขาดเรื่องการบริหาร และออกกำลังกายไม่ได้ กิจกรรมด้านนี้ต้องตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะบริหารและออกกำลังกายจนกระทั่งถึงระดับ peak หรือจุดสูงสุดสำหรับร่างกาย ระดับจุดสูงสุด คือ เหงื่อต้องออกมาโซมกาย หัวใจเต้นแรง ชีพจรขึ้นสูงนับได้ 100 กรือ 120 ครั้งต่อนาที ระดับนี้เป็นระดับสูงสุดของร่างกาย เมื่อชีพจรขึ้นถึงระดับนี้ ต่อมพืทูอิทารี จะขับโกร๊ธฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมา และโกร๊ธฮอร์โมน เป็นยาวิเศษสำหรับตัวเอง ได้มาฟรีๆ โดยไม่ต้องไปซื้อหา

บริหาร คือ การบริหาร ให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายคล่องตัว กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นยืดหยุ่น ไม่หดและแข็งตัว ระบบต่างๆ ของร่างกายเริ่มทำงานได้ดี เช่น ระบบหายใจ เราจะหายใจได้เต็มปอด หายใจได้คล่อง มีเรี่ยวมีแรง ระบบเลือดดี การเต้นของหัวใจดี เลือดไหลเวียนทั่วร่างกายได้เต็มที่

การออกกำลัง คือ การออกแรงและใช้พลังงาน จนกระทั่งร่างกายเกิดความร้อน เหงื่อหลั่งพรั่งพรู และสภาพของร่างกาย จะมีสภาพเหมือนรถยนต์ติดเครื่อง และวิ่งได้เต็มที่

เรื่องการบริหาร และออกกำลังกาย แบบชีวจิตนั้นจะรวมท่า ซึ่งช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย (relaxation) และมีท่าสสมาธิรวมอยู่ด้วย ถ้าทำได้จะช่วยให้คุณนอนหลับสบาย และเป็นการคลายเครียดได้เป็นอย่างดี

ความเครียด ก็มีส่วนทำให้คุณอ้วนได้ ทั้งหมดนี้คุณควรจะทำสูตรสุขภาพ หรือดปรแกรมโดยละเอียดของคุณไว้ล่วงหน้า ทำโปรแกรมอาหาร โปรแกรมบริหาร ออกกำลังกาย และทำโปรแกรมคลายเครียด และสมาธิ พร้อมกันไปด้วย

ไม่ยากและไม่ต้องเสียเงินแพงๆ และอย่าไปหลงเชื่อพวกที่เขาให้คุณกินยาลดความอ้วนเป็นอันขาด

เรื่อง ชมนาด

ชีวจิต 533 – ฉบับพิเศษ 100 วิธี กิน อยู่ หยุดอ้วนถาวร

นิตยาสารรายปักษ์ ปีที่ 23 : 16 ธันวาคม 2563

– – –  – – – – –  – – – – –  – – – –  – – – –  – – –  – – –  – – –  – – –  – –  – –

บทความน่าสนใจอื่นๆ

ชวนรู้จัก Flexitarian หรือ “มังสวิรัติแบบยืดหยุ่น” ลดอ้วน สุขภาพดี

7 อันตราย ที่ตามมากับ โรคอ้วนลงพุง หากปล่อยทิ้งไว้

คนอ้วน ควรออกกำลังกายแบบไหนให้เห็นผล มีประสิทธิภาพ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.