EVERYBODY WATCH OUT ! โควิด-19 อาจกลับมาระบาดซ้ำหนัก

EVERYBODY WATCH OUT ! โควิด-19 อาจกลับมาระบาดซ้ำหนัก ในไตรมาสสุดท้ายของปี

สถานการณ์ โควิด-19 อาจกลับมาระบาดซ้ำหนัก ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ไม่ต่างกับระเบิดเวลา จากการแง้มประตูประเทศรับกลุ่มเป้าหมายต่างชาติ ที่หลายประเทศยังพบการติดเชื้อสูง การระบาดรุนแรง ทุกทวีป และคนไทยละเลยไม่ป้องกันตัวเอง ไม่ใส่หน้ากาก – รักษาระยะห่าง

รศ. นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดว่า สถานการณ์ทั่วทุกภูมิภาคของโลกล่าสุดยังรุนแรงมากอย่างต่อเนื่อง มีอัตราผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลายแสนต่อวัน อัตราการตายหลายพันต่อวัน รวมอัตราผู้ติดเชื้อทะลุ 20 ล้านคนไปแล้ว ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงมาก

นอกจากนี้ประชาชนจำนวนมากในประเทศเริ่มไม่ป้องกันตนเอง เช่น ไม่ใส่หน้ากาก ไม่รักษาระยะห่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้น่าเป็นห่วง เปรียบเหมือนระเบิดเวลา หากมีเคสติดเชื้อขึ้นมาในชุมชน ไม่ว่าจะมาจากแหล่งใดก็ตาม การระบาดในคนจำนวนมากจะเกิดขึ้นได้

คุณหมอธีระย้ำว่า ทุกคนควรตระหนักถึงความเสี่ยงนี้และเตรียมรับมือให้ดี ถ้าเราสู้เต็มที่ มีสติในการใช้ชีวิต หากมีเล็ดลอดมาในชุมชนก็จะพ้นการระบาดซ้ำได้ ขึ้นอยู่กับเราจริง ๆ โดยมีผลงานวิจัยจากทั่วโลกล่าสุดที่ตีพิมพ์ ออกมามากกว่า 200 หัวข้อ ซึ่งสรุปสิ่งที่น่าสนใจออกมาเป็นประเด็นได้ดังนี้

มีคนที่ติดเชื้อจากคนที่ไม่มีอาการมากน้อยเพียงใด
การศึกษาในผู้ป่วย 449 คน ที่ติดเชื้อนอกเมืองอู่ฮั่นโดย Ren X และคณะ พบว่า มีถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ที่ติดเชื้อจากผู้ที่ติดเชื้ออยู่โดยที่ไม่มีอาการ
โอกาสแพร่เชื้อในครอบครัวมีมากน้อยเพียงใด รายงานการศึกษาครอบครัวในกรีซ
ที่ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 63 ครอบครัวโดย Maltezou H และคณะ พบว่า มีโอกาสสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ที่ผู้ติดเชื้อได้แพร่ไปสู่สมาชิกในครอบครัว โดยเป็นการติดจากผู้ใหญ่
ไปเด็ก แต่ไม่มีรายใดที่ติดจากเด็กไปผู้ใหญ่ หรือติดระหว่างเด็กด้วยกัน ทั้งนี้เด็กมักติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนงานวิจัยทั่วโลก 40 ชิ้น พบว่าโอกาสในการติดเชื้อระหว่างสมาชิกในครอบครัวจะอยู่ที่ประมาณ 18.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าไวรัสโรคโควิด-19 นี้ แพร่ง่ายกว่าโรคซาร์สและเมอร์สซึ่ง
เกิดจากไวรัสตระกูลโคโรนาเหมือนกัน
ไวรัสในน้ำนมทนต่ออุณหภูมิร้อนเย็นได้มากน้อยเพียงใด Walker GJ และคณะวิจัยพบว่า อุณหภูมิ 56 – 63 องศาเซลเซียสนาน 30 นาที สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ที่ปนเปื้อนในน้ำนมได้ แต่การแช่เย็นที่ 4 องศาเซลเซียสและ -30 องศาเซลเซียส ต่อให้นานถึง 48 ชั่วโมงหรือสองวัน ก็ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้
มีวิธีการคุมโรคในระบบการจัดการของรัฐอยู่แล้ว เราไม่ใส่หน้ากาก ล้างมือ อยู่ห่าง ๆ ได้หรือไม่ Drake JM และคณะรายงานผลวิจัยของวิธีต่าง ๆ ในการคุมโรคระบาดโควิด-19 พบว่า “การใส่หน้ากาก ล้างมือและรักษาสุขอนามัย อยู่ห่างคนอื่น ๆ และไม่แออัด” เป็นปัจจัยสำคัญมากในการควบคุมโรคได้สำเร็จ แม้จะมีมาตรการอื่น ๆ เช่น
การตามหาเคสติดเชื้อในชุมชน การติดตามคนที่สงสัยว่าสัมผัสกับคนที่ติดเชื้อ การกักตัว และอื่น ๆ ก็ตาม หากไม่ทำทั้งสามอย่างนี้จะคุมโรคไม่อยู่
ควรเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวหรือไม่ การศึกษาในแคนาดาโดย Linka K และคณะทำการสร้างแบบจำลองคาดการณ์ ผลของการเปิดให้มีการเดินทางของชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศ โดยลองประเมินผลกระทบในเมือง ชี้ให้เห็นว่า หากมีการเปิดประตูให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเมื่อไร คาดว่าจะมีคนติดเชื้อภายในประเทศเกิดขึ้นวันเว้นวันเป็นอย่างน้อย แม้จะมีระบบการตรวจและกักตัวอยู่ก็ตาม

STAY ALERT THROUGH 2020

ในช่วงเข้าสู่ปลายปีแบบนี้ เป็นหน้าเทศกาล หากรวมความเสี่ยงจากการแง้มประตู
ประเทศรับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามา รวมถึงแรงงานต่างด้าว
จำนวนเรือนแสน ซึ่งต้องอาศัยระบบการกักตัวที่อาจไม่เต็มประสิทธิภาพนัก จึงเป็นไปได้ว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อาจเจอปัญหาการระบาดซ้ำอย่างหนักหนาสาหัส ถ้าเรา
ไม่ช่วยกันป้องกันตัวอย่างพร้อมเพรียง

ดังนั้นเลี่ยงที่แออัด ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อย ๆ และอยู่ห่างคนอื่นไม่ต่ำกว่าหนึ่งเมตร นอกจากนี้ต้องคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายโปรดหยุดเรียน หยุดงาน และรีบไปพบแพทย์กันนะคะ เพราะโควิค-19 จะระบาดซ้ำในประเทศไทยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคน

เรื่อง ชวลิดา เชียงกูล ภาพ iStock เขียนลงเว็บ เนื้อทอง ทรงสละบุญ