ลดหุ่นเพิ่มสมาธิ, ลดความอ้วน, ลดน้ำหนัก, โยคะ, ออกกำลังกาย

สาวทำงาน ลดหุ่นเพิ่มสมาธิ ร่างกายฟิต เฟิร์ม

Day 4

เนื่องจากการนอนดึกทำให้ความสมดุลของร่างกายเสียกระบวนไปเล็กน้อย วันนี้จึงตั้งอกตั้งใจออกกำลังกายเป็นพิเศษ

การนอนหัวค่ำ ตื่นเช้า กลับมาช่วยให้ร่างกายจัดระบบตัวเองได้ดีขึ้น ไม่รู้สึกหนืด เดินได้คล่องตัวมากขึ้น เรียกได้ว่ากลับมาเริ่มเข้าที่เข้าทาง

เมื่อย้อนกลับไปมองการเดิน นับจากวันแรกที่ยังไม่เป็นโล้เป็นพายวันที่สองเริ่มดีขึ้น และดีขึ้นตามลำดับในวันที่สาม จึงค่อยๆ เพิ่มระยะทางให้ไกลขึ้นและเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นวันละเล็กวันละน้อย จนวันนี้สามารถเดินได้ในจังหวะและความเร็วที่สม่ำเสมอมากขึ้น ทำให้ความเหนื่อยคงที่

นอกจากนี้ยังจัดจังหวะตัวเองให้เดินเป็นธรรมชาติมากขึ้น ต่างจากวันแรกๆ ที่ยังแกว่งแขนสูงได้บ้างไม่ได้บ้าง มาวันนี้สามารถเดินแกว่งแขนสูงขึ้นมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องบังคับตัวเอง ก้าวเท้าได้ระยะสม่ำเสมอกัน การลงน้ำหนักที่เท้าสมดุลขึ้นและเดินได้อย่างกระฉับกระเฉงมากขึ้น

หลังจากเดิน ฝนตั้งเค้าทำท่าจะตก ทำให้คิดถึงแผนสองของการออกกำลังกาย เผื่อว่าวันไหนฝนตกลงมาจริงๆ จะได้ออกกำลังกายได้ไม่ขาดตอน ว่าแล้วจึงลงมือออกกำลังกายด้วยโยคะต่ออีกครึ่งชั่วโมง สรุปวันนี้ออกกำลังกายต่อเนื่องไปร่วมหนึ่งชั่วโมงเต็ม

เหตุผลที่คิดถึงโยคะก็เพราะทำในร่มคนเดียวได้ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ แถมยังช่วยลดไขมันส่วนเกินและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ ลดหุ่นเพิ่มสมาธิได้ด้วย

โยคะ, ลดหุ่นเพิ่มสมาธิ, ลดอ้วน, ออกกำลังกาย, ลดน้ำหนัก
ฝึกโยคะ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ ลดไขมันส่วนเกิน และสร้างสมาธิที่ดี

คิดถึงสาวทำงานที่มักกลัวการฝึกโยคะไปสารพัด อันดับหนึ่งเลย คือ กลัวยาก กลัวทำไม่ได้ กลัวเจ็บ กลัวทำท่าไม่สวย

จากการคุยกับครูโยคะมาหลายท่าน หลักๆ ของการฝึกคือให้มองเป็นเรื่องสนุก ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าฝืนทำจนเจ็บไม่ต้องทำท่ายากเพื่ออวดใคร เพราะสรีระของแต่ละคนไม่เหมือนกันเว้นแต่หากต้องฝึกโยคะบางท่าเพื่อการเยียวยาอาการบางอาการ ก็ปล่อยให้อยู่ในความดูแลของครูโยคะ

โยคะท่าง่ายๆ คือทางออก จึงเลือกหนังสือ รูปร่างสวยด้วยโยคะภายใน 30 วัน (ครูมด - เบญจามณี คำเมือง เขียน สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ จัดพิมพ์) ที่วางโปรแกรมไว้ให้ว่า วันไหนทำท่าอะไรบ้าง ทำกี่ครั้ง รวมเวลาฝึกโยคะตั้งแต่ต้นจนจบประมาณ 30 นาที

การออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือโยคะ ช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีทั้งความกระปรี้กระเปร่าและสมาธิ พร้อมสำหรับการทำงานแบบคูณสอง

วันนี้ชั่งน้ำหนัก ลดไป 2 กิโลกรัม ดีใจจังเลย

 

กิจวัตรระหว่างปฏิบัติการลดอ้วน

6.15 น. ตื่นเช้า หุงข้าวกล้อง

6.30 น. ออกจากบ้านเพื่อเดินออกกำลังกายระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร และ / หรือฝึกโยคะครึ่งชั่วโมง

7.00 น. กลับถึงบ้าน ทำดีท็อกซ์ อาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัวไปทำงาน

8.15 น. กินข้าวเช้า จากนั้นตักข้าวกล้องใส่กล่องเพื่อนำไปกินที่ทำงานด้วย ออกเดินทางไปทำงาน

9.30 น. ทำงาน (การมีช่องว่างระหว่างอาหารมื้อเช้าและเวลาทำงานช่วงเช้าช่วยให้นั่งทำงานอย่างมีสมาธิ เพราะสบายตัว ไม่มีอาการอึดอัดหรือง่วงเหงาหาวนอน ที่สำคัญควรเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพราะจะสามารถสัมผัสความเปลี่ยนแปลงได้ทันที)

12.00 น. กินอาหารกลางวัน เดินไปกินที่ร้านอาหารใกล้ๆ บริษัท เดินไปและกลับระยะทางรวมประมาณ 600 เมตร

13.00 น. ทำงาน (การได้เดินในระยะใกล้ๆ ระหว่างมื้อกลางวันช่วยเพิ่มพลังการทำงานช่วงบ่ายได้)

15.00 น. เดินเพื่อผ่อนคลายรอบๆ ออฟฟิศ 15 นาทีก่อนกลับขึ้นไปทำงาน (การทำงานช่วงบ่ายมีเวลาต่อเนื่องยาวนานกว่าช่วงเช้า ดังนั้น ไม่ควรอยู่กับโต๊ะเป็นเวลานานๆ ควรหาวิธีการยืดเส้นยืดสาย นอกจากจะช่วยให้รู้สึกกระฉับกระเฉงและคล่องตัวขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีได้อีกทางหนึ่งด้วย)

17.00 น. กินอาหารเย็น

18.00 น. เดินทางกลับบ้าน

19.00 น. ถึงบ้าน ทำภารกิจส่วนตัว

22.00 น. สวดมนต์ เข้านอน

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 5 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.