ประโยชน์ของถั่ว ตัวช่วยลดน้ำหนักสุดเจ๋ง
ประโยชน์ของถั่ว ช่วยลดน้ำหนักได้ คนที่มาเข้าแคมป์ที่เวลเนสวีแคร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการลดความอ้วน มักจะบ่นว่า กินมื้อเย็นได้แป๊บเดียว เดี๋ยวก็หิวอีกแล้ว ซึ่งผมเตรียมอาหารจำพวกผลไม้ และถั่วไว้ให้กินเล่นหลากหลายชนิด เช่น ถั่วอบแห้ง ถั่วต้ม
แต่หลายคนเมื่อเห็นแล้วก็ไม่เอา บ้างว่ากินแล้วไม่สะใจ บ้างว่ากลัวอ้วน บ้างว่าไม่อิ่มไม่เหมือนกินหมูหรือไก่มันๆ
มิไยที่ผมจะบอกข้อมูลจากงานวิจัยว่า ถั่ว เป็นแหล่งแคลอรีที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าไขมัน หรือธัญพืชขัดขาวที่เป็นแหล่งแคลอรีแต่ความกลัวนั้นก็ยังฝังหัวอยู่
ประเด็นกินถั่วแล้วไม่อิ่ม มาจากความเชื่อว่า ถั่วเป็นพืช กินแล้วจะอิ่มสะใจอย่างการกินหมูกินไก่ได้อย่างไร นั่นเป็นเพียงการมโนเท่านั้น
เมื่อไม่นานมานี้มี งานวิจัยที่มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Food & Nutrition โดยให้ผู้ชาย 43 คน กินแพตตี้ (คล้ายขนมพาย) โดยแยกกินทีละชนิดระหว่างแพตตี้ไส้เนื้อหมูกับเนื้อวัว กับแพตตี้ไส้ถั่วต่างๆ แล้ววัดคะแนนความรู้สึกอิ่มหลังกิน นอกจากนี้ยังตามไปดูการกินอาหารในมื้อต่อไปด้วย
ผลการวิจัยปรากฏว่า หลังกินแพตตี้ไส้ถั่ว ผู้กินให้คะแนนความรู้สึกอิ่มมากกว่ากินแพตตี้ไส้เนื้อหมูกับเนื้อวัว และเมื่อตามไปดูการกินอาหารมื้อต่อไป ซึ่งเปิดโอกาสให้เลือกกินอาหารตามใจชอบ พบว่า หลังกินแพตตี้ไส้ถั่ว ผู้ร่วมวิจัยเลือกกินอาหารที่มีปริมาณแคลอรีต่ำกว่าผู้ที่กินแพตตี้ยัดไส้เนื้อหมูกับเนื้อวัวถึงร้อยละ 12
ที่เป็นเช่นนี้คงเป็นเพราะว่า ถั่วต่างๆ นั้นมีกากใยมาก ขณะที่เนื้อหมูกับเนื้อวัวแทบไม่มีกากใยเลย การกินอาหารที่มีกากใยมาก จะทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนาน จึงรู้สึกอิ่มนานกว่า เพราะในเชิงสรีรวิทยา วงการแพทย์ทราบมานานแล้วว่า ความอิ่มเกิดขึ้นจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งในสองข้อนี้ คือ
หนึ่ง เมื่อมีอาหารเต็มกระเพาะอาหารแล้ว และ สอง เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นถึงเกณฑ์แล้ว
งานวิจัยนี้เป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยยืนยันว่า “ถั่ว” เป็นอาหารลดน้ำหนักที่ดี คือทำให้อิ่มได้ทั้งๆ ที่ได้รับแคลอรีไม่มาก ต่างจากเนื้อสัตว์และอาหารอุดมไขมันที่มีแคลอรีสูงที่แม้จะได้รับในปริมาณน้อยๆ ซึ่งกว่าที่เนื้อสัตว์จะเต็มกระเพาะอาหาร เราก็ได้รับแคลอรีมากเกินไปเสียแล้ว
พูดถึงตรงนี้ผมคิดถึงนักเรียนที่มาเข้าแคมป์คนหนึ่ง เธอประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักลงได้ถึง 11 กิโลกรัม ในเวลาเพียง 4 เดือนเธอเล่าความลับให้เพื่อนๆ ฟังว่า
“เวลาหิว ฉันก็กินถั่ว หิว ฉันก็กินถั่ว หิว ฉันก็กินถั่ว”
ท่านที่ยังลดน้ำหนักไม่ได้เพราะติดมโนว่าไม่ได้กินหมูกินไก่แล้วไม่อิ่ม ลองกินถั่วดูนะครับ
48 G
คือ ปริมาณของถั่วพีแคน ที่ทดลองให้อาสาสมัครกินติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งพบว่า ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวม และระดับแอลดีแอล (ไขมันชนิดไม่ดี) ในเลือดให้ลดลงได้ถึงร้อยละ 27
ข้อมูลจากหนังสือลดคอเลสเตอรอลใน 12 สัปดาห์สำนักพิมพ์บริษัทรีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย)
จาก คอลัมน์ WELLNESS CLASS นิตยสารชีวจิต ฉบับ 442
บทความน่าสนใจอื่นๆ
4 สูตรน้ำผักผลไม้ลดน้ำหนัก ช่วยให้หุ่นดี
สูตรลดน้ำหนัก 14 วัน ตำรับชีวจิต