คน 6 แบบที่เจอแล้วต้องรีบออกห่างก่อนจะกลายเป็น
Toxic People โดยไม่รู้ตัว
รอบตัวเรามีคนอยู่หลากหลายรูปแบบ บ้างก็ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น มีความสุข แต่บางคนก็ทำให้เราปวดประสาทตามเขาไปโดยไม่รู้ตัว เราจึงควรระวังคน 6 ประเภท ที่ถ้าเจอแล้วต้องรีบออกห่างให้ไว ก่อนจะกลายเป็น Toxic People ตามเขาไปโดยไม่รู้ตัว ข้างตัวเรามีคนแบบนี้รึเปล่ามาลองเช็คกันค่ะ
คนที่มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา
ถ้าข้างตัวเรามีคนที่ชอบมองโลกในแง่ร้ายอยู่แทบจะตลอดเวลาแล้วล่ะก็ ออกห่างจากเขาได้ก็ออกห่างเถอะค่ะ เพราะเขาจะมาพร้อมกับความหวาดระแวง คิดว่าแทบจะทุกสิ่งทุกอย่างอาจทำให้เกิดปัญหา หรือความลำบาก และคิดว่าการกระทำของคนอื่นนั้นมันต้องมาจากเรื่องไม่ดีแน่เลย การที่เราอยู่ใกล้ๆคนกลุ่มนี้บ่อยๆเข้า มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดความเครียด ความกดดันได้ง่าย และกลายเป็นคนขี้กังวลใจจนเกินไป คิดมากคิดเยอะทั้งๆที่ความจริงแล้ว อาจจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงก็ได้ และจะทำให้เรามองคนอื่นในแง่ร้ายตามเขาไปด้วย ก็เหมือนกับการที่เขาบอกว่าให้เรานำพาตัวเองไปอยู่ในแวดล้อมที่ดี อยู่กับคนที่มองโลกในแง่ดี ก็จะช่วยทำให้เรารู้สึกมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น ไม่ใช่การที่จะต้องระแวงไปทุกฝีก้าวนั่นเอง
คนที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ
เชื่อว่าคุณจะต้องเคยเจอคนที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ ฉันไม่ผิด เธอสิผิด แถมยังโทษว่าเรานั้นทำได้ไม่ดีอีกด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วเราก็ยังไม่ได้ทำอะไรไม่ดี หรือผิดพลาดเลยเสียด้วยซ้ำ การอยู่กับกลุ่มคนประเภทนี้รับรองได้เลยว่านอกจากเราจะต้องมาทำงานหนักขึ้นแล้ว ยังจะต้องมาปวดหัวโต้เถียงกับเขา โดยที่เขาก็ไม่ฟังอะไรจากใคร ดังนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงออกห่างให้ไว จะได้ไม่เครียด และไม่ปวดหัวไปกับเขาด้วย แต่บางครั้งชีวิตเราก็เลี่ยงคนประเภทนี้ไม่ได้จริงๆ ยิ่งในชีวิตการทำงาน เราอาจจะเลือกไม่ได้ว่าฉันจะไม่ทำงานกับคนนี้ ฉันจะไม่ร่วมงานกับคนนี้เด็ดขาด ถ้าเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ เราก็ควรที่จะเลี่ยงๆเขาหน่อย หรือไม่ก็พยายามปล่อยเขาไป อย่าเอาคำพูดของเขามาใส่ใจเราให้มากนัก เพราะสุดท้ายแล้วคนที่รู้สึกแย่ก็คือคนฟังอย่างเรานั่นเอง
คนที่เรียกร้องความสนใจ หรือขอความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
กลุ่มคนประเภทนี้มักจะเป็นคนที่ชอบเรียกร้องความสนใจ พยายามที่จะทำให้คนรอบข้างอย่างเราๆหันไปสนใจเขา หรือบางคนก็ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นอยู่แทบจะตลอดเวลา จนเรียกได้ว่าคนอื่นแทบไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากมาช่วยเขาในเรื่องต่างๆ ซึ่งการที่เราอยู่ใกล้คนประเภทนี้จะทำให้เราจัดการเวลาของตัวเองได้ยากมากขึ้น เพราะนอกจากจะต้องสะสางงานของตัวเองให้เรียบร้อยแล้ว ก็ยังจะต้องไปช่วยเหลืองานอื่นๆที่เขาขอให้ช่วยเอาไว้อีก ซึ่งยิ่งเป็นคนที่เรียกร้องความสนใจอยู่ตลอดเวลาด้วย เขาก็มักจะเร่งเราให้ช่วยเหลือเขาก่อนที่เราจะทำงานของตัวเอง จนกลายเป็นว่าเราเองที่จะต้องมาเร่งรีบปั่นงานของตัวเองให้เสร็จทันกำหนดส่ง แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ เพราะนอกจากจะเหนื่อยกายจากการทำงานแล้ว ยังเหนื่อยใจอีกด้วย อาจก่อให้เกิดโรคเครียด และทำให้นอนไม่หลับ เวลาชีวิตของเราก็รวนไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นห่างได้ให้ห่าง หรือไม่ก็อาจจะนิ่งๆเงียบๆไปไม่ค่อยให้ความสนใจเขา อีกสิ่งที่เราควรระวังหากอยู่ใกล้คนกลุ่มนี้บ่อยๆก็คือ เราอาจจะเคยชินกับการที่เขาขอความช่วยเหลือคนอื่นอยู่ตลอด จนเราอาจจะรู้สึกว่าการขอความช่วยเหลือบ้างเป็นเรื่องที่ไม่แปลก หรือทำให้ใครเดือดร้อนอะไร ซึ่งอาจจะทำให้เราติดนิสัยแบบนั้นไปด้วยก็ได้ เราสามารถขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้ แต่ควรขอแค่เรื่องที่เรานั้นไม่สามารถทำได้จริงๆ หรือต้องการคำแนะนำที่ดีมากกว่านี้
นักโกหก ปั่นเรื่องมืออาชีพ
แน่นอนว่าไม่ว่าใครก็ไม่อยากที่จะสนิทชิดเชื้อ หรือรู้จักกับคนที่ชอบโกหก แต่บางครั้งเราก็ไม่รู้หรอกว่าเขาแต่งเรื่องขึ้นมา หรือโกหกอะไรเราบ้าง ถ้าโชคดีหน่อย เราก็จะเจอแค่คนที่เขาแต่งเรื่อง สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อน หรือเพิ่มภาระอะไร แต่โลกไม่ได้สวยงามขนาดนั้นเสมอไป บางครั้งเราอาจจะเจอบุคคลที่ชอบแต่งเรื่อง หรือสร้างเรื่องราวให้คนอื่นมีภาระหน้าที่มากขึ้น โยนงานให้คนอื่นทำ หรืออาจจะถึงขั้นสร้างเรื่องให้คนเข้าใจผิดกัน แตกคอกัน ถ้าเราเจอคนประเภทนี้แล้วล่ะก็ พยายามออกห่างจากเขาโดยด่วน เพราะอาจจะทำให้เราเดือดร้อนได้ และไม่ดีต่อสภาพจิตใจของเราแน่นอน แต่ก็อย่าลืมที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเอาไว้หน่อย เขาจะได้ไม่ว่าร้ายอะไรเรา หรือทำให้เราเดือดร้อนอะไรมากนัก
นางเอกไม่จริง มีอยู่จริงบนโลกนี้
อีกกลุ่มคนที่เราควรจะระวังเอาไว้ ก็คือคนที่พยายามจะทำให้ตัวเองนั้นดูน่าสงสาร ราวกับว่าทุกคนรอบตัวของเขากำลังรังแกเขาอย่างหนักหน่วง ทั้งที่ความจริงแล้วอาจจะไม่ได้มีเรื่องอะไรแบบนั้นก็ได้ จริงอยู่ว่าการที่เป็นผู้ถูกกระทำนั้นเป็นเรื่องที่น่าสงสาร แต่เราก็ควรจะระวังเอาไว้ว่า เขาเป็นผู้ถูกกระทำจริงๆ หรือทำไปเพื่อให้คนอื่นดูร้ายแทน อาจจะดูเหมือนว่ากลุ่มคนที่ชอบทำตัวให้ดูน่าสงสารนั้นก็ไม่น่าจะมีผลอะไรต่อเรามากนัก แต่ความจริงแล้วมันมีผลต่อสภาพจิตใจของเราแน่นอนค่ะ และอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับคนอื่นแย่ไปด้วยก็ได้ ไม่เพียงเท่านี้ การที่เราอยู่ใกล้คนกลุ่มนี้บ่อยๆ อาจจะทำให้เรารู้สึกว่าโลกนี้มันช่างร้ายกาจ จนกลายเป็นว่าตัวเราเองที่ชอบมองโลกในแง่ร้ายแทน จากประสบการณ์ของคนข้างตัวเรา ซึ่งก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่าการมองโลกในแง่ร้ายนั้นไม่ดีต่อสุขภาพใจของเราเลย
คนที่เอาแต่เปรียบเทียบ แข่งขันอยู่ตลอดเวลา
ในชีวิตของเราอาจจะต้องพบเจอกับคนที่พยายามจะเอาชนะอยู่ตลอดเวลา หรือมองคนอื่นเป็นคู่แข่งขัน เอาแต่เปรียบเทียบกับคนอื่น และหาทางที่จะเอาชนะเขา แม้ว่ามันจะมีเรื่องดีอยู่บ้างที่เขาสามารถสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองให้เก่งมากขึ้น แต่ความจริงแล้วการที่เอาแต่เปรียบเทียบ และแข่งขันเพื่อที่จะชนะนั้น อาจจะแลกมาด้วยความกดดัน ความเครียด ต้องทำงาน หรือพยายามเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอย่างหนักหน่วง จนไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งการที่เราอยู่กับกลุ่มคนประเภทนี้บ่อยๆ จะทำให้เรารู้สึกกดดันตัวเองอยู่โดยไม่รู้ตัวก็ได้ อาจจะทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างดูเร่งรีบ ทำให้สภาพแวดล้อมไม่ค่อยดีนัก บางคนอาจจะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองนั้นด้อยค่า ไม่มีค่า ไม่เก่ง ทั้งที่ความจริงแล้วเราอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้ แทนที่จะได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเอง อาจจะกลายเป็นความท้อแท้ หรือมองว่าความฝัน ความสำเร็จของเรานั้นอยู่ไกลกว่าเดิม บางคนอาจจะทำให้เรามีภาระหน้าที่ที่มากขึ้น จากการที่เขาเอาแต่แข่งขันจนโยนภาระหน้าที่บางอย่างมาให้เราทำแทนเขาแทนก็ได้ แบบนี้ไม่ดีต่อกายและใจแน่นอน
สุดท้ายนี้ความจริงที่จะทำให้เรามีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ก็คือการที่เรานำพาตัวเองไปอยู่ในแวดล้อมที่ดี คนที่จริงใจต่อกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คนที่มองโลกในแง่ดี ก็จะทำให้ตัวเรามีชีวิตที่ดีตามไปด้วยนั่นเอง
บทความอื่นที่น่าสนใจ
- 4 สิ่งทำได้ เปลี่ยนชีวิต ใหม่ให้มีความสุขยิ่งกว่าที่เคยเป็น
-
ความดันและไขมันในเลือดสูง ปรับเปลี่ยน 3 อ (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์) ไม่ง้อยา
- เดินเผาผลาญไขมัน >> การลดน้ำหนักสุดคลาสสิกที่ไม่ทำให้อ้วนซ้ำ
ติดตามชีวจิตได้ที่
Instagram Cheewajitmedia
Facebook นิตยสาชีวจิต
ขอขอบคุณรูปภาพจาก pexels.com