เดินเผาผลาญไขมัน คือสุดยอดการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีมากกกกก เพราะอย่างนี้ เราถึงอยากจะย้ำว่า การเดินถึงดีนักสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน
เป้าหมายที่แท้จริงในการลดความอ้วนไม่ได้อยู่ที่การลดน้ำหนักตัว แต่เป็นการลดไขมันในร่างกาย ซึ่งการ ” เดินเผาผลาญไขมัน ” ในร่างกาย จะเริ่มขึ้นหลังจากเริ่มออกกำลังกายสักระยะ โดยการเดินเป็นการออกกำลังกายที่ไม่หนัก สามารถทำได้นาน จึงช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้ดี
เริ่มต้นง่ายและประหยัด
แค่มีรองเท้ากีฬาที่ใส่สบายและเหมาะสมกับเท้าของตัวเอง ก็สามารถเริ่มได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายราคาแพง หรือสมัครสมาชิกฟิตเนส ทั้งยังไม่ต้องหาเวลาหรือสถานที่เฉพาะ เพียงแค่จัดให้มีการเดินอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น เวลาออกไปข้างนอกก็เลือกวิธีเดินแทนการขับรถหรือโดยสารพาหนะ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าเดินทางด้วย
เดินเผาผลาญไขมัน ข้อเสียน้อย ข้อดีเยอะ
แรงกระแทกเมื่อเท้าสัมผัสพื้นจะอยู่ที่หนึ่งหรือสองเท่าของน้ำหนักร่างกาย ซึ่งน้อยกว่าการวิ่ง ทั้งที่เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเหมือนกัน
นอกจากนี้ ในระยะเท่ากัน อัตราการดึงไขมันในร่างกายมาใช้ ก็ใกล้เคียงกัน ผลการวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การเดินออกกำลังกายครั้งละ 45 นาที สัปดาห์ละ 4 ครั้งอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลา 1 ปี จะช่วยลด น้ำหนักตัวได้ 8.2 กิโลกรัม
สลายไขมันในร่างกายได้เร็ว
ไขมันในร่างกายไม่ได้เริ่มเผาผลาญตั้งแต่เริ่มออกกำลังกาย แต่ต้องออกกำลังกายไปสักระยะจึงจะเริ่มเผาผลาญ โดยปกติแล้วการเดินเร็ว 10-20 นาที จะช่วยสลายไขมัน ซึ่งการเดินในความเร็วที่พอเหมาะ จะทำให้ไม่เหนื่อยและทำได้นาน จึงส่งผลดีต่อการสลายไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะหากออกกำลังกายแบบแอโรบิกขณะท้องว่าง ร่างกายจะดึงน้ำตาลที่สะสมไว้มาใช้เป็นพลังงาน จึงช่วยลดความอ้วนได้ดี
ลดความเครียด
การเดินช่วยกระตุ้นสมองได้อย่างพอเหมาะ ทำให้เกิดการหลั่งสารเอนดอร์ฟินมากขึ้น ส่งผลให้อารมณ์ดี จิตใจแจ่มใส เพราะการควบคุมอาหารในช่วงที่ลดความอ้วนจะทำให้เกิดความเครียดได้ ในช่วงเวลานี้หากได้เดินออกกำลังกาย ก็จะช่วยบรรเทาความอยากอาหารลง อารมณ์จึงดีขึ้น การเดินจึงถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขจัดความเครียด จนสามารถรักษาอาการซึมเศร้าได้เลย
ไม่มีภาวะโยโย่
เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ที่ไม่ทำให้เหนื่อยมาก จึงไม่เกิดความรู้สึกหิวโซเหมือนเวลาออกกำลังกายหนัก ทั้งยังช่วยคลายเศรียด จึงป้องกันการกินอาหารเยอะเกินไปอย่างฉับพลันด้วย ทั้งนี้ เพราะหลังผ่านการออกกำลังกายหนัก หลายคนมักพ่ายต่อความอยากอาหาร จนต้องเผชิญภาวะโยโย่
เป็นโภชนบำบัดที่ดี
หลังจากออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็วแล้ว มักรู้สึกอยากดื่มน้ำหรือกินผลไม้ ทั้งนี้เพราะคารโบไฮเดรต (น้ำตาล) ในร่างกายถูกดึงไปใช้ตั้งแต่ช่วงแรกของการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายต้องการน้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งน้ำเพื่อทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป การดื่มน้ำและกินผลไม้มาก ๆ จะทำให้กินอาหารอื่นได้น้อยลง จึงช่วยควบคุมอาหารได้
เดินเผาผลาญไขมัน สามารถทำได้นาน
การออกกำลังกายและการลดความอ้วนเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 ครั้งขึ้นไป และทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆตลอดทั้งปี ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าการออกกำลังกายทุกวัน แต่ ทำได้เพียง 3 เดือน เพราะการทำอย่างต่อเนื่องจะ ทำให้รูปแบบชีวิตดำเนินไปตามกลไกการปกป้อง ร่างกายซึ่งมีอยู่แต่เดิม การเดินไม่ได้ทำให้เหนื่อยมาก วามเครียดจากการลดความอ้วนจึงน้อย ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟินมากขึ้น ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ทั้งยังทำได้ในชีวิตประจำวัน จึงเป็นการออกกำลังกาย ที่ดีในแง่ที่ทำได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
รู้ไว้จะดีมาก “พลังงานที่ใช้ในการเดิน”
ใช้หน่วย METs (metabolic equivalents – ปริมาณพลังงาน) ในการคำนวณพลังงาน ที่ใช้ในการเดิน โดยจะบอกปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายใช้ในช่วงเวลาหนึ่ง ยกตัวอย่าง เช่น หากเดินเร็ว 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (100 เมตรต่อนาที) METS จะเท่ากับ 4
ตัวอย่าง : น้ำหนักตัว 6 กิโลกรัม เดินด้วยความเร็ว 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลา 30 นาที
60 (กิโลกรัม) x 4 (METS) x 0.5 (ชั่วโมง) = 120 กิโลแคลอรี
ข้อมูลจาก หนังสือ ยิ่งเดิน ยิ่งผอม ยิ่งสุขภาพดี สำนักพิมพ์อมรินทร์เฮลท์
บทความอื่นที่น่าสนใจ
รวม ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ปีใหม่นี้ ต้องผอม+สตรอง!!
เดินเร็ว ช่วยป้องกันกระดูกเสื่อมได้จริง
แรงกระแทก ดีต่อกระดูกอย่างไร หมอมีคำตอบ
ความดันและไขมันในเลือดสูง ปรับเปลี่ยน 3 อ (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์) ไม่ง้อยา
ติดตามชีวจิตได้ที่