สุขอรุณสวัสดิ์ สูตรอร่อย มื้อเช้าเพื่อสุขภาพ ทำง่าย

สุขอรุณสวัสดิ์ อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ คนโบราณมักพูดว่า “เช้ากินข้าวกินปลาให้หนักจะได้มีแรงทำงาน เย็นค่ำกินแต่พอประมาณจะได้ไม่ป่วย” แต่ในทางตรงข้ามเราทำกลับกัน เช้ากินน้อยหรือไม่กิน ไปหนักเอามื้อเย็นหรือมื้อดึกอย่างนี้ประจำ จนเกิดความเคยชินและก่อให้เกิดโรค โดยเฉพาะโรคอ้วน ไขมัน เบาหวาน เป็นต้น

“อาหารมื้อเช้า” สำคัญต่อร่างกายที่สุดเพราะเป็นมื้อที่ให้พลังงานต่าง ๆ แก่ร่างกายและทำให้ร่างกายแข็งแรง มีกำลัง สติปัญญาแจ่มใส เนื่องจากหลังตื่นนอนหากได้รับสารอาหารเข้าไปก็คล้ายเคร่อื งยนต์ใหม่ที่ได้รับการชาร์จแบตเตอรี่มาใหม่ เครื่องก็ทำงานได้ดี สะดวก และคล่องแคล่วอาหารเช้าจึงเป็นเสมือนน้ำมันหรือไฟในแบตเตอรี่ที่มีกระแสไฟเต็มพร้อมที่จะขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ

สมองเปรียบเหมือนเครื่องกลหรือศูนย์บัญชาการที่ถูกตั้งโปรแกรมได้และสามารถส่งผ่านข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพถ้าหน่วยต่าง ๆ ของร่างกายไม่มีพลังงานสำรองหรือพลังงานที่ใส่เข้าไปอย่างเหมาะสมประสิทธิภาพของการทำงานก็จะด้อยลงและนานวันเข้าอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็เสื่อมชำรุดทรุดโทรม

ในศาสตร์การแพทย์แผนไทยได้กล่าวถึงโทษจากอาหารที่ส่งผลให้เจ็บป่วยไว้หลายแง่มุม เช่น กินอาหารแสลงกับโรคก็จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้นหรืออาการไม่พึงประสงค์ หรือกินอาหารผิดกับธาตุก็ทำให้ท้องเสีย การย่อยการขับถ่ายผิดปกติไป กินมากเกิดโทษ กินน้อยก็เกิดโทษกินผิดเวลาก็เกิดโทษ กินของที่ไม่ควรกิน เช่น กินของบูดเน่า กินของดิบ ของคาวจัดก็เกิดโทษแก่ร่างกาย เป็นต้น

ด้านเวลาที่เหมาะสม แพทย์แผนไทยกล่าวไว้ว่า ในช่วงเช้าและช่วงค่ำ (ตั้งแต่ 6.00 น. – 10.00 น. หรือ 18.00 น. – 22.00 น.)
เป็นเวลาของ “เสมหะสมุฏฐาน” หรือเป็นเวลาที่ได้รับอิทธิพลของธาตุน้ำ ในช่วงเช้าประสิทธิภาพการทำงานของเสมหะ (ธาตุน้ำ)
ทำงานได้ดีกว่าในตอนเย็นหรือตอนกลางคืนเพราะเสมหะที่อยู่ในทางเดินต่าง ๆ จะค่อย ๆ เคลื่อนจากบนลงล่าง คือจากส่วนบน (คอ
ลงมาถึงคูถทวารหรือลำไส้ใหญ่) จนถึงรุ่งขึ้นอีกวัน ส่งผลให้ระบบการย่อยและการดูดซึมสารอาหารในตอนเช้าดีกว่า ส่วนมื้อเย็น
หากกินอาหารมากการย่อยอาหารจะไม่ค่อยดีเพราะน้ำย่อย น้ำดีออกมาน้อยลง และประสิทธิภาพลดลง ไฟธาตุที่ย่อยอาหารก็อ่อนกำลังส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดได้ง่าย

ดังนั้นเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีเราจึงไม่ควรละเลยอาหารเช้า และควรเลือกรับประทานเช้าที่เปี่ยมไปด้วยประโยชน์ เช่น เมนู “สุขอรุณสวัสดิ์” ที่ดิฉันฝากไว้ให้คุณในวันนี้ค่ะ

การรับประทานอาหารนอกจากต้องคำนึงเรื่องของสารอาหารแล้ว ศาสตร์การแพทย์แผนไทยยังมุ่งเน้นให้รับประทานอาหารให้ครบทุกธาตุและครบทุกรสชาติของอาหาร เพื่อเป็นการรักษาสมดุลในระบบของธาตุ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ของร่างกายให้ปกติ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยจากธาตุไม่ปกติ

มันฝรั่ง ช่วยบำรุงกำลังและช่วยเจริญอาหารแก้อาการชักเกร็ง แก้อาการต่อมน้ำเหลืองอักเสบ
มะเขือเทศ ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยฟอกโลหิต ช่วยให้ผิวพรรณดี ช่วยป้องกัน
เลือดออกตามไรฟัน
ถั่วลันเตาหวาน บำรุงกำลัง บำรุงเส้นเอ็นต้านอนุมูลอิสระ
แครอต ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ ป้องกันตาฟาง ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานได้ปกติ ป้องกันมะเร็งช่วยขับปัสสาวะ
ไข่ มีโปรตีนสูงช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

สุขอรุณสวัสดิ์

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่) เตรียม 20 นาที ปรุง 15 นาที

มันฝรั่งหั่นเต๋า 6 ช้อนโต๊ะ
แครอตหั่นเต๋า 4 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลันเตาหวานหั่นเต๋า 4 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศหั่นเต๋า 4 ช้อนโต๊ะ
เห็ดฟางหั่นเต๋า 3 ดอก
ถั่วขาวในซอส
มะเขือเทศ 9 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือและน้ำตาล อย่างละเล็กน้อย
พริกไทยดำบดหยาบเล็กน้อย

วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันรำข้าว 1/2 ช้อนโต๊ะในกระทะ ผัดมันฝรั่ง แครอต ให้สุก ใส่ถั่วลันเตา เห็ดฟางและมะเขือเทศ สุดท้ายใส่ถั่วขาวในซอสมะเขือเทศลงผัดเติมเกลือ น้ำตาล และพริกไทยชิมรสให้เค็ม เผ็ดพริกไทยหวานเล็กน้อย และเปรี้ยวจาก มะเขือเทศ ได้ที่แล้วปิดไฟ

2. ตอกไข่ไก่ใส่ชาม คนให้เข้ากัน ตั้งกระทะบนไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ใส่น้ำมันกลอกให้ทั่ว รอให้ร้อนสักพัก เทไข่ลงไปแล้วกลอกกระทะไปมาให้ไข่เป็นแผ่นกลม รอให้สุกตักขึ้น นำแผ่นไข่ไปห่อไส้ในข้อ 1 จัดใส่จาน รับประทานพร้อมขนมปัง ชาหรือกาแฟน้ำผลไม้ นม ได้ตามชอบ

พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 227.75 กิโลแคลอรี
โปรตีน 9.10 กรัม ไขมัน 14.90 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 29.45 กรัม ไฟเบอร์ 5.55 กรัม

โดย อาจารย์วันทนี ธัญญา เจตนธรรมจักร ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทย

เรียบเรียง : สิทธิโชค ศรีโช ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก ผู้ช่วยช่างภาพ : พชรพร, วรายุทธ, สิริกาญจน์
สไตล์ : พิมฝัน ใจสงเคราะห์