น้ำประปา

น้ำประปา ปลอดภัยจริงไหม

นอกจากรู้ถึงแหล่งต้นน้ำที่เราต้องอุปโภคและบริโภคแล้ว เรามาดูเทคนิคในการดื่มน้ำเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงกันบ้างดีกว่า

HOW-TO ดื่มน้ำลดหุ่น

หนังสือดื่มน้ำอุ่นลดหุ่น  โดยสำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ  แนะนำดังนี้

1. ดื่มน้ำอุ่นหลังตื่นนอนตอนเช้า โดยให้ดื่มน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส 1 แก้ว

2. อย่าเพิ่งกลืน เมื่อดื่มน้ำอุ่นอึกแรก อย่าเพิ่งรีบกลืนให้กลั้วคอทำความสะอาดช่องปากแล้วค่อยบ้วนทิ้ง เพราะการกลั้วคอจะช่วยทำความสะอาดช่องปากในตอนเช้าวิธีนี้สามารถเพิ่มภุมิคุ้มกันโรคในช่องปากได้

3. ค่อย ๆ ดื่ม ขณะดื่มน้ำอุ่น ห้ามดื่มอึกใหญ่โดยเด็ดขาด ให้ค่อยๆดื่มน้ำลงท้องเพื่อกระตุ้นอวัยวะภายในช้าๆอย่างนุ่มนวล น้ำ 1 แก้วควรใช้เวลาดื่มประมาณ 10 นาทีจึงจะเหมาะสมที่สุด วิธีนี้เป็นการฝึกความอดทนและจดจ่ออยู่กับความรู้สึกของร่างกาย

4. ให้ดื่มน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิผิวหนังหรือประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะ เพราะไม่ร้อนและไม่เย็นเกินไป ซึ่งจะทำให้กระบวนการเคมีที่สลายโมเลกุลใหญ่ทำงานดีขึ้น

ดื่มน้ำเพื่อระบบเผาผลาญ

ผลวิจัยจาก Institute for Public Health and Water Research และ Virginia Tech University ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า น้ำเปล่าที่เราดื่มนั้น สามารถช่วยให้เกิดการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลในร่างกายได้ เพราะน้ำทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง จึงเกิดการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นเพื่อให้เกิดสมดุลความร้อน ส่งผลให้สารอาหารและพลังงานถูกเผาผลาญตามไปด้วย จึงช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินสะสม

หนังสือดื่มน้ำอุ่นลดหุ่น สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ แนะนำว่า การดื่มน้ำอุ่นจะช่วยให้กระบวนการแคแทบอลิซึมทำงานหนักขึ้น อุณหภูมิในร่างกายจึงสูงขึ้น ทำให้ระบบเผาผลาญไขมันทำงานได้ดี

ทั้งนี้การดื่มน้ำอุ่นจะช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญ เมื่อดื่มน้ำอุ่น ระดับอุณหภูมิที่ร่างกายรับรู้จะเท่ากับความร้อนเมื่อร่างกายใช้พลังงานขณะออกกำลังกาย จึงช่วยเผาผลาญไขมันและทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ และเนื่องจากน้ำอุ่นมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกาย จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการรักษาอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ

นอกจากนี้แม้แต่ส่วนประกอบที่เป็นของเหลวในบรรดาน้ำแกง น้ำชาก็ยังไม่อบอุ่นพอสำหรับร่างกายเท่าน้ำอุ่น ขณะเดียวกันถ้าคุณดื่มน้ำเย็นอุณหภูมิที่ต่ำจะทำให้กระเพาะอาหารเกิดความเย็นจนประสิทธิภาพการทำงานลดลง ในสภาวะเช่นนี้กระเพาะอาหารจะไม่สามารถแยกแยะระหว่างสารอาหารที่ร่างกายต้องการกับส่วนประกอบที่ร่างกายไม่ต้องการจากอาหารทั้งหลายที่รับเข้ามาได้ จนกลายเป็นภาระของร่างกายในที่สุด

บทความอื่นที่น่าสนใจ

ติดตามชีวจิตได้ที่

https://www.instagram.com/cheewajitmedia/

https://www.facebook.com/CheewajitMagazine


© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.