เทคนิคลดน้ำหนัก 8 กิโลกรัมใน 8 เดือน คุมอาหาร IF งดน้ำตาล และดื่มน้ำ ทำตามง่าย ลดได้จริง
คุมอาหาร IF งดน้ำตาล และดื่มน้ำ เป็นวิธีการลดหุ่นที่ คุณชมพู่ – ศาริศา สุขคง อดีตกองบรรณาธิการนิตยสารชีวจิต ปัจจุบันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏ ใช้เป็นตัวช่วยให้น้ำหนักลดลงอย่างได้ผลและยั่งยืน
“ย้อนกลับไปก่อนท้อง น้ำหนัก 55 กิโลกรัม ช่วงตั้งท้อง 48 กิโลกรัม เพราะแพ้ท้องหนักมาก หลังคลอดพยายามกินเยอะ ๆ เพราะเชื่อว่าดื่มน้ำส้มกับขนมปังจะทำให้มีน้ำนมเยอะและน้ำนมหวาน จึงกินใหญ่เลย เพื่อบำรุงลูก ทำให้น้ำหนักขึ้นมาถึง 65 กิโลกรัม ตอนแรกไม่ได้สนใจเรื่องน้ำหนักมากนัก เพราะคิดว่าน้ำหนักคงลดลงมาเอง
“จนลูก 7 ขวบ น้ำหนักก็ยังไม่ลง พอไปตรวจสุขภาพ หมอบอกว่า เป็นโรคอ้วน คอเลสเตอรอลสูง เรื่องคอเลสเตอรอลสูงเป็นกรรมพันธุ์ ที่บ้านเป็นกันหมด หมอให้ลดน้ำหนักลงสัก 8 กิโลกรัม เพราะทำให้เหนื่อยง่ายและสุขภาพไม่ดี จึงลองลดดู พอดีโควิดระบาด ต้องสอนออนไลน์ จึงควบคุมอาหารและออกกำลังกาย”
คุมอาหาร IF และงดน้ำตาล
“เรื่องที่ทำเป็นอันดับแรกคือ ควบคุมอาหาร ลดแป้ง งดน้ำตาล ทำ IF ด้วย แต่ไม่ได้สุดโต่ง แค่หลังจาก 1 ทุ่ม ไม่กินอะไร กินข้าวเช้าสายหน่อย ประมาณ 9 – 10 โมง เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันเก่าเสียก่อน
“อาหารเช้าไม่กินของมันเลย กินไข่ต้ม 2 ฟอง นม ถั่วเหลือง สลับกับกินข้าวบ้าง เพราะที่บ้านกินข้าวกล้อง แต่กินไม่เยอะนะคะ เน้นกินโปรตีน กินไข่ต้มเป็นหลัก บางวันก็กินตอนเช้า 2 ฟอง ตอนเย็น 2 ฟอง จะกินแต่ไข่ต้ม ไม่กินไข่ทอด แต่ไม่ได้กินทุกวัน
“กลางวันเน้นกินโปรตีนพวกสเต๊กปลาแซลมอน ส้มตำ แต่รสชาติไม่จัดเกินไป เพราะถ้ากินอาหารรสจัด จะทำให้เจริญอาหาร กินแป้งนิดเดียว จริงๆ ก็กินอาหารครบทั้ง 5 หมู่ แต่กินในปริมาณน้อยลง ที่เคร่งที่สุดคือ งดน้ำตาลไปเลย ไม่ดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ไม่กินผลไม้พวกส้ม กล้วยไม่กินเลย ทุเรียนไม่กินอยู่แล้ว ปกติก็ไม่กินผลไม้รสหวานจัดอยู่แล้ว
“มื้อเย็นส่วนใหญ่กินไข่ต้ม สลัด เน้นทำอาหารกินเอง เพราะถ้าซื้ออาหารตามร้านไม่รู้ว่าเขาใส่อะไรมาบ้าง ตอนเย็น ส่วนใหญ่เมนูที่ทำประจำคือยำวุ้นเส้นหรือยำที่แคลอรีต่ำ ไม่ใส่วัตถุดิบที่เป็นอาหารแปรรูป
“โชคดีที่ไม่ชอบกินแป้ง ไม่ค่อยกินขนม แต่บางช่วง ร่างกายเหมือนโหย เช่น ช่วงเป็นประจำเดือน รู้สึกอยากกิน ก็กินให้หายอยาก แต่ไม่ได้กินทุกวัน
“เมื่อก่อนไม่ได้เคร่งเรื่องน้ำตาลในผลิตภัณฑ์ต่างๆ สักเท่าไหร่ อย่างโยเกิร์ตไม่เคยดูเลยว่าน้ำตาลเยอะมาก 10 – 20 มิลลิกรัม ตอนนี้คือต้องดูก่อนซื้อ จนเลิกกินไปเลย นมเปรี้ยว จะเลือกยี่ห้อที่ปริมาณน้ำตาลน้อยจริง ๆ”
ชอบดื่มน้ำที่สุด
“หลัง 1 ทุ่มไม่กินอะไรเลย กินแต่น้ำเปล่า เป็นคนชอบดื่มน้ำมาแต่ไหนแต่ไร อาจเพราะถูกปลูกฝังให้ดื่มน้ำ แม่ก็บอกให้ดื่มน้ำบ่อย ๆ จึงติดนิสัยดื่มน้ำ
“เนื่องจากเป็นคนใช้เสียงเยอะ เพราะเป็นครูต้องพูดทั้งวัน บางทีต้องไปเป็นพิธีกร วิทยากร เสียงหายไม่ได้ จะระวังเรื่องการดื่มน้ำเย็น ส่วนใหญ่จะดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง
“ปกติดื่มน้ำขวด 1.5 ลิตร วันละ 3 ขวด ตื่นเช้ามาดื่มน้ำขวดขนาดกลางก่อนเลย 1 ขวด หลังจากนั้นดื่มกาแฟ แล้วก็ดื่มน้ำตาม เป็นคนติดกาแฟ ยังไงก็ต้องกิน บางวันกิน 3 แก้ว แต่นอนหลับได้ตามปกตินะ เพราะว่าดื่มน้ำเยอะนี่แหละค่ะ ที่สำคัญกาเฟอีนทำให้ผิวแห้ง จึงต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อกำจัดกาเฟอีนออกจากร่างกาย ระหว่างวันก็ค่อย ๆ จิบน้ำไปทั้งวัน ตอนเย็นจะไม่ดื่มมากเกินไป เพราะไตจะทำงานหนัก
“เวลาไปพักโรงแรมที่ไหนก็ตามมักมีน้ำให้ 2 ขวด ไม่เคยพอ ต้องซื้อมาเพิ่มอีก 2 – 3 ขวดสำรองไว้เพื่อความสบายใจ ถ้าขาดน้ำจะกังวลมาก ในรถ ห้องทำงาน ทุกที่ต้องมีน้ำไว้ เผื่อหิวขึ้นมา และพกแก้วพับได้ติดตัวไว้ตลอดเวลา เผื่อไปเจอตู้กดน้ำตามที่ต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยจะได้ดื่มได้เลย คือเห็นน้ำแล้วต้องพุ่งเข้าไปกิน ชอบดื่มน้ำมาก
“วันไหนดื่มน้ำน้อยจะรู้สึกเหมือนร่างกายขาดอะไรไปสักอย่าง รู้สึกไม่สดชื่น ปากจะแห้ง ผิวแห้ง ปกติเป็นคนผิวแห้ง ต้องทาครีมค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว การดื่มน้ำเยอะช่วยได้มาก รู้สึกได้ว่าผิวชุ่มชื้น ผิวหน้าสดชื่น เวลาแต่งหน้า เครื่องสำอางติดง่าย ยังแปลกใจเลยว่าคนไม่ดื่มน้ำทั้งวันอยู่ได้ยังไง มีเพื่อนบางคนไม่หิวน้ำ ไม่ดื่มน้ำ ไม่เข้าห้องน้ำเลย
“นอกจากระวังอาหาร ปกติก็ออกกำลังกายด้วยการฝึกโยคะเย็นก่อนนอนทุกคืน หรือไม่ก็ออกกำลังกายเบา ๆ ไม่ได้ ออกกำลังกายแบบแอโรบิกหนัก ๆ ใช้เวลา 8 เดือน น้ำหนักลงไป 8 กิโลกรัมและไม่ขึ้นมาอีก เพราะเราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินไปเลย
“พอน้ำหนักลดลงก็คล่องแคล่วกระฉับกระเฉงขึ้น เดินได้นานขึ้น เดินขึ้นบันไดก็ไม่เหนื่อย รู้สึกแข็งแรงขึ้น ไม่ป่วยบ่อย เรามีโรคประจำตัวคือเป็นภูมิแพ้ ถ้านอนไม่พอร่างกายอ่อนแอก็จะป่วย หลังจากน้ำหนักลดลง สุขภาพก็ดีขึ้น ไม่ค่อยเป็นหวัด
“ช่วงแรก ๆ ที่เปลี่ยนวิธีกินก็อยากกินโน่นกินนี่ แต่ พอหิวหรืออยากจะดื่มน้ำแทนเพื่อไม่ให้ท้องว่าง มันช่วย ปรับสมดุลในร่างกาย ช่วยให้ไม่อยากกินอะไรอีก เรื่องนี้ ต้องฝึก เพื่อให้เราสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างถาวร”
ข้อมูลจาก นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 589
บทความอื่นที่น่าสนใจ
รวม ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ปีใหม่นี้ ต้องผอม+สตรอง!!
เดินเร็ว ช่วยป้องกันกระดูกเสื่อมได้จริง
แรงกระแทก ดีต่อกระดูกอย่างไร หมอมีคำตอบ
ความดันและไขมันในเลือดสูง ปรับเปลี่ยน 3 อ (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์) ไม่ง้อยา
ติดตามชีวจิตได้ที่
