ว่ายน้ำ

DID YOU KNOW? ว่ายน้ำ ท่าไหนเบิร์นเยอะที่สุด

ว่ายน้ำ ท่าอะไรเผาผลาญดีสุด

สารพัดวิธีการออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ อาจทำให้หลายคนเกิดอาการสับสนว่าเราควรออกกำลังกายแบบไหนดี จะคาร์ดิโอหรือเวตเทรนนิ่งดี หากใครยังคิดไม่ตกเกี่ยวกับชนิดของกีฬาที่จะเล่น เราอยากให้คุณลอง ว่ายน้ำ ดูค่ะ เพราะนอกจากจะได้รูปร่างที่สวยงามแล้ว ยังเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมายอีกด้วย

ประโยชน์ของการ ว่ายน้ำ

  • เป็นการออกกำลังกายที่เกิดแรงกระแทกน้อย จึงเหมาะสำหรับคนน้ำหนักตัวเยอะได้ประโยชน์แบบทูอินวัน การว่ายน้ำอย่างเดียวได้ทั้ง “คาร์ดิโอ” (ช่วยเผาผลาญขมัน) และ”เวตเทรนนิ่ง (ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ) ไปพร้อม ๆ กัน
  • ช่วยบริหารปอด การว่ายน้ำจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของปอดให้แข็งแรงมากขึ้น เมื่อปอดของคุณแข็งแรงแล้ว จะทำให้ร่างกายสามารถรับและระบายออกซิเจนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงช่วยให้สุขภาพแข็งแรงอีกด้วย
  • ช่วยผ่อนคลายจากอาการเมื่อยล้าได้ดี จะเห็นได้ว่าการรักษาหลาย ๆ อย่างมักมีน้ำเป็นส่วนประกอบเนื่องจากน้ำมีอิทธิพลต่อสมองของเรา ช่วยให้สมองได้พักผ่อน แถมเป็นการฝึกสมาธิไปในตัวค่ะ

ว่ายน้ำ ท่าไหนเผาผลาญแคลอรีได้มากที่สุด

ㆍท่าผีเสื้อ สามารถเผาผลาญได้ถึง 404 แคลอรี และช่วยกระชับกล้ามเนื้อท้อง หลัง อก หัวไหล่ ต้นขา และแขน
ㆍท่ากบ สามารถเผาผลาญได้ถึง 367 แคลอรี ทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อขา แขน หน้าอก และหัวไหล่
ㆍท่าฟรีสไตล์ สามารถเผาผลาญได้ถึง 257 แคลอรี ช่วยกระชับกล้ามเนื้อสะโพก ท้อง และไหล่
ㆍท่ากรรเชียง สามารถเผาผลาญได้ถึง 257 แคลอรี ช่วยกระชับกล้ามเนื้อท้อง ต้นขา และหัวไหล่

ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้ผลมากที่สุด การว่ายน้ำเป็นกีฬาที่น่าสนใจมากนะคะ แต่การว่ายน้ำเพียงอย่างเดียวอาจไม่เห็นผลมากนัก หากคุณยังตามใจปาก ดังนั้นการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมปริมาณอาหารค่ะรู้แบบนี้แล้ว รีบไปว่ายน้ำกันเถอะ รับรองว่าคุณจะติดใจ

การว่ายน้ำ จะทำให้เรามีรูปร่างที่ดีได้อย่างไร

การว่ายน้ำ เป็นการออกกําลังกายที่ดีที่สุดสําหรับสาวเจ้าเนื้อ เพราะเวลาที่เราอยู่ในน้ำ น้ำจะช่วยพยุงตัวเราไว้ ทําให้ตัวเราเบาลง ลดแรงกระแทกที่เกิดกับข้อต่อของร่างกาย สบายตัวและรู้สึกผ่อนคลายมากกว่ากิจกรรมหรือการออกกําลังกายอื่นๆ ที่เหงื่อออกมากๆ

น้ำมีคุณสมบัติในการช่วยลอยตัวหรือพยุงลําตัว และยังมีแรงต้าน ทําให้การเคลื่อนไหวช้าลง จึงช่วยลดแรงกดที่กระทําต่อข้อเท้าและข้อเข่าให้น้อยลง การวิ่งในน้ำที่มีความสูงระดับเอว น้ำจะช่วยรองรับน้ำหนักตัวไว้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ หรือน้ำหนักจะลดลง 50 เปอร์เซ็นต์

ที่ความสูงระดับอก น้ำหนักจะลดลงไป 30 เปอร์เซ็นต์ และที่ความสูงระดับไหล่หรือลําคอ น้ำหนักจะลดลงไป 10 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งน้ำลึกมากเท่าไร น้ำหนักเราจะลดลงมากเท่านั้น แต่การออกกําลังกายในน้ำลึกจะมีความยากมากกว่าน้ำตื้น

  • 10-18% คือการรับออกซิเจนของร่างกายที่เพิ่มขึ้นจากการฝึกว่ายน้ำ 3 เดือน
  • 50% คืออัตราการเสียชีวิตที่ลดลงในผู้ที่ว่ายน้ำเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ออกกําลังกาย
  • 10-20 ปี คืออายุทางกายภาพที่ดูอ่อนกว่าวัยของนักว่ายน้ำ
  • 6% คือประสิทธิภาพการควบคุมการหายใจที่เพิ่มขึ้นจากการว่ายน้ำ 12 ครั้ง
  • 8% คือมวลกล้ามเนื้อไตรเซปที่เพิ่มขึ้นจากการว่ายน้ำ

คนอ้วนกับการว่ายน้ำ

คนอ้วน หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อเข่า ข้อเท้า ปวดหลัง หรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาที่ไม่สามารถออกกําลังกายทั่วไปได้ การออกกําลังกายในน้ำจึงเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง ทั้งนี้ การว่ายน้ำก็เหนื่อยไม่ต่างจากการวิ่งบนบกเลย

ข้อควรระวัง ถึงแม้การว่ายน้ำจะเป็นกีฬาที่ปลอดภัยกว่า กีฬาประเภทอื่น แต่ก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน

  1. เกิดตะคริว ส่วนใหญ่จะเป็นที่ขา เพราะอุณหภูมิน้ำเย็นเกินไปหรืออบอุ่นร่างกายไม่เพียงพอ
  2. ลื่นล้ม หากไม่ระมัดระวัง ขณะเดินรอบๆ สระน้ำอาจลื่นล้มได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
  3. ติดเชื้อรา โดยเฉพาะผู้หญิงช่วงก่อนและหลังประจําเดือนมา 2 วัน ควรล้างร่างกายทุกส่วนให้สะอาดทุกครั้งก่อนลงสระ
  4. ผู้ที่มีบาดแผล เป็นโรคผิวหนัง มีภาวะแก้วหูทะลุ ไม่ควรลงน้ำ
  5. ไม่ปล่อยให้เด็กหรือคนชราออกกําลังกาย หรือเล่นน้ำตามลําพัง

 คําแนะนําเพิ่มเติม

  1. ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกครั้งก่อนลงสระเพื่อป้องกันตะคริว โดยเฉพาะช่วงอากาศเย็นๆ
  2. หากเป็นเด็กทารก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วย คนชรา ควรมีผู้ดูแล

การว่ายน้ำมีผลดีขนาดนี้ วันนี้เรารีบไปลงสระกันเถอะ

เกล้าผมอย่างไรให้เป๊ะ ก่อนว่ายน้ำ   

  1. สระผมด้วยน้ำเปล่า การทำให้ผมเปียกช่วยให้ผมจัดทรงง่ายขึ้น
  2. ใช้หวีหรือแปรง หวีเส้นผมเพื่อไม่ให้ผมพันกันยุ่งเหยิง จากนั้น ใช้หนังยางรัดผมเป็นทรงหางม้า จะเกล้าสูง กลาง หรือต่ำก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
  3. จับผมปลายด้านล่างของผมหางม้าแล้วหมุนผมให้แน่นจนเหมือนขดลวด
  4. ม้วนผมตามเข็มนาฬิการอบๆ ฐานหางม้า เพื่อสร้างมวยผม แล้วจึงใช้หนังยางอีกเส้นมัดรอบมวยผม
  5. ใช้นิ้วโป้งวางไว้ด้านในของหมวกว่ายน้ำ เพื่อทำให้หมวกเปิดกว้าง จากนั้น ก้มหน้าลงและวางส่วนหน้าของหมวกว่ายน้ำให้พอดีกับหน้าผาก ค่อยๆ ดึงหมวกว่ายให้คลุมทั้งศีรษะ ซึ่งส่วนหลังของหมวกควรอยู่ใต้แนวเส้นผม

คำเตือน ควรหลีกเลี่ยงการใช้กิ๊ฟติดผม ปิ่นปักผม เพราะหมวกว่ายน้ำจะฉีกขาดได้ง่าย

อุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อการออกกําลังกายในน้ำ

การออกกําลังกายในน้ำมีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วย หากแต่ต้องเลือกใช้อุณหภูมิของน้ำให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

บทความ Aquatic Exercise โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงปิยะภัทร เดชพระธรรม ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ระบุว่า การออกกําลังกายในน้ำมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยในหลายๆ กลุ่ม เพราะช่วยลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ โดยทั่วไป อุณหภูมิที่เหมาะสมของน้ำที่ใช้ในการออกกําลังกายอยู่ระหว่าง 26-36 องศาเซลเซียส แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

• น้ำค่อนข้างอุ่น 34–36 องศาเซลเซียส ช่วยลดอาการปวด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงบริเวณที่มีอาการอักเสบเรื้อรัง ช่วยให้เส้นเอ็นยืดได้ง่ายเหมาะสําหรับผู้ป่วยที่บาดเจ็บไขสันหลัง โรคข้ออักเสบ ผู้ป่วยระยะพักฟื้น ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์

• น้ำที่ค่อนข้างเย็น 25–28 องศาเซลเซียส ช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดี ช่วยชะลอความเมื่อยหรืออาการเหนื่อยล้าได้ดีกว่า เหมาะสําหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โรคระบบประสาท โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) หรือโรคเอ็มเอส (MS) ซึ่งมีปัญหาเรื่องการปรับสมดุลร่างกาย และผู้มีสุขภาพปกติที่ต้องการทํากิจกรรมเข้าจังหวะในน้ำ


บทความอื่นที่น่าสนใจ

เจาะลึกระบบต่างๆ ที่ทำให้เรา อ้วน

บอกต่อวิธีชะลอวัย 1. เร่งเมแทบอลิซึม 2. เร่งขับพิษ เพื่อสุขภาพดี

ปวดท้องประจำเดือน อาการนี้ไม่ปกตินะสาว

เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โรคซึมเศร้า จึงสัมพันธ์กับฤดูกาล

ติดตามชีวจิตได้ที่
https://www.instagram.com/cheewajitmedia/

https://www.facebook.com/CheewajitMagazine

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.